India
เนปาล สักการะ 4 วังเวชนียสถาน
จากปกติ 31,080
เหลือเพียง 25,900.-
กำหนดการเดินทาง
พ.ย.62-ม.ค.63
สายการบิน
Thai Air Asia (FD)
หมู่บ้านนางสุชาดา(Sujata Village) ผ่าน แม่น้ำเนรัญชร (Niranjana River) พุทธคยา หรือ วัดมหาโพธิ์(Mahabodhi Temple) ชม สังเวชนียสถาน สารนาถ ชมพิธีคงคาอารตี(Ganges Aarti) ล่องเรือสู่แม่น้ำคงคา ชม มหาปรินิพพานวิหาร(Mahaparinirvana Temple) ชม มหาปรินิพพานสถูป จากนั้น ชม มกุฏพันธนเจดีย์ (Ramabhar Stupa) สู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร (Venuvan Vihara)
รหัสทัวร์ : T07-FD-BT-GAY02-27JAN63
กรุงเทพฯ – พุทธคยา
05.30 น.
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองอาคารผู้โดยสารขาออก 1 ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย ประตู 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
08.20 น.
ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา ประทศอินเดิย โดยเที่ยวบินที่ FD 122 (**มีบริการอาหารบนเครื่อง)
10.10 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานสนามบินคยา เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่(**เวลาท้องถิ่นของประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 1.30 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น เดินทางสู่ นำท่านสู่ หมู่บ้านนางสุชาดา(Sujata Village) มีลักษณะเป็นกองอิฐเนินสูง ซึ่งนางสุชาดาเป็นผู้ที่ถวายข้าวมธุปายาสให้กับพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ระหว่างทางก็จะผ่าน แม่น้ำเนรัญชร (Niranjana River) ปัจจุบันเรียกว่า Falgu River หรือ Phalgu River เป็นแม่น้ำที่ถ้าฝนหยุดตก น้ำในแม่น้ำก็จะแห้งไปอย่างรวดเร็ว และจะอยู่ในสภาพที่แห้ง สามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่พุทธคยา หรือ วัดมหาโพธิ์(Mahabodhi Temple)ที่เป็นจุดกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่เป็นเวลา 2,500 กว่าปีมาแล้ว เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ได้ประทับอยู่ ณ พุทธคยา เพื่อเสวยวิมุตติสุข (ความสุขอันเกิดจากความหลุดพ้น) อยู่ 7 สัปดาห์ โดยมี ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ มีทั้งหมด 4 ต้น นับเป็นอนุสรณ์สถานอันทรงคุณค่าและสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
เย็น
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
DHAMMA OR MAHABODHI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองพุทธคยา
พุทธคยา – พาราณสี
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองพาราณสี (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชม สังเวชนียสถาน สารนาถเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3เดิมมีชื่อว่า“ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” สักการะ ธรรมเมกสถูปสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ลวดลายดอกไม้ที่รอบองค์พระสถูป เป็นศิลปะของยุคคุปตะแต่การสำรวจพบว่า แผ่นอิฐข้างในพระสถูปเป็นของยุค เมารยัน จึงสันนิษฐานไว้ว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกนำชมเสาพระเจ้าอโศก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนา ประกอบด้วยทางแห่งความสงบและความหลุดพ้น บนยอดเสาจะเป็นรูปสิงค์ 4 ตัว เสามีฐานบัวคว่ำ และฐานเสาทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นธรรมจักรและรูปช้าง ม้า โค และสิงค์
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชม สังเวชนียสถาน สารนาถเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3เดิมมีชื่อว่า“ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” สักการะ ธรรมเมกสถูปสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ลวดลายดอกไม้ที่รอบองค์พระสถูป เป็นศิลปะของยุคคุปตะแต่การสำรวจพบว่า แผ่นอิฐข้างในพระสถูปเป็นของยุค เมารยัน จึงสันนิษฐานไว้ว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกนำชมเสาพระเจ้าอโศก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนา ประกอบด้วยทางแห่งความสงบและความหลุดพ้น บนยอดเสาจะเป็นรูปสิงค์ 4 ตัว เสามีฐานบัวคว่ำ และฐานเสาทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นธรรมจักรและรูปช้าง ม้า โค และสิงค์
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่าน ล่องเรือสู่แม่น้ำคงคา ชมความสวยงามของเมืองพาราณสี และ ชมพิธีคงคาอารตี(Ganges Aarti)หรือที่เรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่ปฎิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระแม่คงคา แต่ไม่เพียงแค่บูชาไปเท่านั้น ยังมีหลายอย่างที่ใช้ในการประกอบพิธี เช่น สังข์, ระฆัง, ธูป, ภาชนะหรือหม้อใส่น้ำ,การบูร, ดอกไม้, กำยาน, ตะเกียงน้ำมันฆี,พัดขนนกยูง และแส้หางจามรี เป็นต้น (พิเศษ! กระทงลอยขอพรแม่น้ำคงคา)
ที่พัก
AMAYA OR COSTA RIVIERA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว ที่เมืองพาราณสี
พาราณสี – ลุมพินี (เนปาล)
07.00 น.
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลุมพินี (เนปาล) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทาง จากประเทศอินเดีย ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง สู่ประเทศเนปาล
(**กรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดียค่ะ**)
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
PAWAN OR NEW CRYSTAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองลุมพินี (เนปาล)
ลุมพินี (เนปาล) – กุสินารา
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ ลุมพินีวัน หรือปัจจุบันเรียกว่า รุนมินเด เป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งแรก เป็นสถานที่ที่พระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อวันศุกร์ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ซึ่งโดยรอบลุมพินีวันนั้น มีซากอิฐเก่า สระโบกขรณี ซึ่งมีลักษณะเป็นสระทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า เป็นสระที่พระนางสิริมหามายาได้ทรงสรงสนาม(อาบน้ำ) ชำระพระวรกายในวันประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ และวิหารมายาเทวี (Mayadevi Temple) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิริมหามายา โดยภายในวิหารเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าทรงย่างพระบาทแรกหลังออกจากครรภ์พระราชมารดา ตัววิหารสูง 3 เมตร และมีบันไดขึ้น-ลงได้ 2 ด้าน ภายในยังมีภาพหินทรายแกะสลักรูปพระประสูติกาลของเจ้าชายสิทธัตถะ และภาพเจ้าชายสิทธัตถะยืนอยู่องค์เดียว และบริเวณด้านข้างประดิษฐาน “เสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช” หรือ เสาอโศก(Ashokan Pillar) พบว่าที่เสาอโศกนั้น จารึกอักษรพราหมที่มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าประสูติที่นี่” ซึ่งลุมพินีวันแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ.2540 อีกด้วย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่าน ชมสังเวชนียสถาน เมืองกุสินารา เป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับ
เมืองปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ชม มหาปรินิพพานวิหาร(Mahaparinirvana Temple) ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดง ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก นำท่านชม มหาปรินิพพานสถูป ตั้งอยู่ทางด้านหลังของ มหาปรินิพพานวิหาร ลักษณะเป็นสถูปทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ จากนั้น ชม มกุฏพันธนเจดีย์ (Ramabhar Stupa) ตั้งอยู่ถัดจาก มหาปรินิพพานสถูป ป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
OM RESIDENCY OR MAITREY HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองกุสินารา
กุสินารา – เวสาลี – ปัตนะ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปัตนะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ เมืองเวสาลี เป็นชื่อของเมืองหลวงของแคว้นวัชชี เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญรวมถึงเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยพุทธกาล แต่ในปัจจุบัน แคว้นวัชชี เป็นอำเภอเวสาลี เป็น 1 ใน 14 อำเภอขึ้นตรงกับรัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยี่ยมเมืองแห่งนี้ในปีที่ 5 หลังการตรัสรู้ นำท่านชม เสาอโศก รูปสิงค์ ณ วัดป่ามหาวัน ซึ่งถือว่าที่แห่งนี้เป็นเสาสิงค์ที่สมบูรณ์ที่สุด จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองปัตนะ
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
PANACHE OR PATLIPUTRA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองปัตนะ
ปัตนะ – นาลันทา – ราชคฤห์ – พุทธคยา
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ มหาลัยนาลันทา(Nalanda University) มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นสถานศึกษาของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา มีการสอนในหลากหลายวิชา ทั้ง พุทธปรัชญา พระไตรปิฎก วรรณคดี แพทยศาสตร์ เป็นต้น มีพระสงฆ์จากต่างประเทศเดินทางมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ครั้ง พ.ศ.1742 มหาลัยนาลันทานั้นถูกเข้าใจว่าเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ จึงถูกทหารชาวมุสลิมเติร์กเข้าทำลาย ทำให้คัมภีร์ ทางศาสนาถูกเผาทั้งหมด
เที่ยง
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนามีลักษณะเป็นซากฐานกำแพงสูงประมาณ 6 ฟุตล้อมรอบบริเวณ ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏอันสวยงามได้อีกด้วย นำท่านสู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร (Venuvan Vihara)หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน หมายถึง วัดสวนป่าไผ่ เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต บนริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดีซึ่งมีตโปธาราม (บ่อน้ำร้อนโบราณ)และวัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูป ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นซากโบราณสถานในสวนไผ่ที่ร่มรื่น จากนั้นนำท่านสู่ ตโปธาราม เป็นบ่อน้ำร้อนโบราณ(Hot Water Spring)อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีเป็นที่อาบน้ำสาธารณะของวรรระต่างๆ วิธีการอาบจะแบ่งเป็นชั้นๆตามวรรณะสูงต่ำเชื่อกันว่าการอาบน้ำ ณ ที่แห่งนี้จะสามารถชำระบาปและรักษาโรคได้ จากนั้น เดินทางสู่ เขาคิชฌกูฏ(Girdhkut Cave)มีลักษณะเป็นภูเขาที่เอียงลาดยาวขึ้น และเป็นลานกว้าง จุดเด่นที่น่าสนใจคือ อิฐปรักหักพังลักษณะทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จดับขันปริพนิพพาน และกุฏิวิหารสำหรับพระภิกษุสงฆ์อีกหลายท่าน และยังเป็นสถานที่ที่เงียบสงัด และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับผู้คนที่มาศักการะ
ค่ำ
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก
PANACHE OR PATLIPUTRA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองปัตนะ
พุทธคยา – กรุงเทพฯ
เช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร เดินทางเข้าสู่สนามบินคยา เมืองพุทธคยา
10.40 น.
ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ FD 123 (**มีบริการอาหารบนเครื่อง)
14.50 น.
เดินทางถึง สนามบินดอนเมืองกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
อัตราค่าบริการรวม
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
อัตราค่าบริการไม่รวม
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์
การจองทัวร์ :
กรณียกเลิก :
กรณีเจ็บป่วย :
เงื่อนไขอื่น ๆ :
เอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าประเทศอินเดีย-เนปาล 10 วันล่วงหน้าก่อนเดินทาง
สแกนหน้าพาสปอร์ตสีที่ชัดเจน ห้ามถ่ายจากมือถือ และวันหมดอายุหนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
รูปถ่าย : รูปสี ขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาวเท่านั้น 4 รูป หน้าตรง ไม่ยิ้มเห็นฟัน เก็บผมให้เรียบร้อย
กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ เด็กไม่ได้เดินทาง กับบิดาและมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมให้บุตรเดินทาง ไปต่างประเทศจากเขตหรืออำเภอ (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) + หน้าพาสปอร์ตของบิดาและ มารดา + หนังสือรับรองค่าใช่จ่าย
กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ ต้องเตรียมสำเนาสูติบัตร ภาษาไทย 2 ฉบับ และ ใบสูติบัตรตัวจริง ภาษาอังกฤษ 2 ฉบับ
กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องเตรียมเอกสารเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษตัวจริง 2 ฉบับ
**สแกนสี และ เป็นไฟล์ PDF เท่านั้น**
**ในกรณีวีซ่าของท่านไม่ผ่านการพิจารณาจากประเทศอินเดีย
ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบคืนเงินค่าทัวร์ให้ทุกกรณี**
รายละเอียดเพิ่มเติม
**กรุณากรอกข้อมูลสำคัญสำหรับกรอกวีซ่าอินเดียออนไลน์ด้านล่างให้ครบถ้วนด้วยค่ะ**
** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางอย่างถ่องแท้ แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง**